ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนในโลก ก็จงมีจิตใจของมิชชันนารีเสมอ

เมื่อไม่นานมานี้ ขณะที่ร้องเพลงสรรเสริญในโบสถ์ บทเพลงบทหนึ่งได้ทำให้ฉันตกตะลึง

แม้จะไปประกาศยังสถานที่ไกลโพ้นไม่ได้ แต่ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน ฉันจะอธิษฐานอย่างไม่หยุดยั้ง

โดยทั่วไปแล้ว เมื่อเราพูดถึงมิชชันนารี (missionary) เรามักจะเรียกชื่อสถานที่ต่างๆ ร่วมด้วย เช่น มิชชันนารีชาวกานา มิชชันนารีชาวเปรู เป็นต้น ดังนั้นฉันจึงสงสัยคำว่า 'การประกาศ' (宣教, seon-gyo) ซึ่งในภาษาอังกฤษคือ mission จึงลองไปค้นหาในพจนานุกรม

พจนานุกรมภาษาเกาหลีของ Naver ระบุว่า การประกาศ (宣教) ประกอบด้วยคำว่า ‘宣’ (seon) หมายถึง การเผยแพร่ และ ‘敎’ (gyo) หมายถึง การสอน ดังนั้นการประกาศจึงหมายถึง ‘การเผยแพร่และสอนศาสนาอย่างกว้างขวาง’ ซึ่งไม่ได้ระบุว่าจำเป็นต้องไปยังสถานที่ใดสถานที่หนึ่งหรือสถานที่ที่ห่างไกล แต่หมายถึงผู้ที่สอนและเผยแพร่หลักคำสอนทางศาสนา

จากนั้นฉันก็ระลึกถึงบันทึกการไตร่ตรองที่ฉันได้พูดคุยกับใครคนหนึ่งเมื่อไม่นานมานี้ ฉันได้จบการสนทนาด้วยประโยคว่า ‘ฉันอธิษฐานเผื่อประเทศญี่ปุ่นด้วยใจที่เป็นมิชชันนารี’ ฉันรู้สึกประหลาดใจที่ประโยคนี้ได้สร้างแรงบันดาลใจให้กับเขาและเขาได้แบ่งปันประโยคนี้กับคนอื่นๆ เขาได้ปลอบใจฉัน (หรือเปล่า?) ว่าไม่ได้มีความหมายอื่นแอบแฝงอยู่เลย

เช่นเดียวกันนี้ พวกเราคริสตชนสามัญชนก็สามารถเป็นมิชชันนารีได้โดยการอธิษฐานเผื่อกลุ่มคนหรือชาติใดชาติหนึ่ง หรือสนับสนุนพวกเขาทางด้านการเงิน แน่นอนว่ามาตรฐานของมิชชันนารีในปัจจุบันค่อนข้างเข้มงวด ดังนั้นคำพูดของฉันอาจทำให้ความเหนื่อยยากและความพยายามของพวกเขาจางหายไปได้

แต่สิ่งที่ฉันอยากเน้นก็คือ ไม่ว่าเราจะได้รับการแต่งตั้งหรือไม่ก็ตาม หากเรานึกถึงความหมายของคำว่า ‘การประกาศ’ ดังที่ได้กล่าวมาแล้ว ชุมชนของเรา เขตปกครองของเรา และประเทศของเราก็สามารถเป็นเป้าหมายของการประกาศได้เช่นกัน อาจจะมีคนพูดว่า ‘ในเกาหลีมีโบสถ์อยู่เต็มไปหมดแล้วนี่นา’ แต่ฉันคิดว่าคนที่นับถือศาสนาอย่างถูกต้องและแท้จริงนั้นมีไม่มากนัก

สหรัฐอเมริกาที่ฉันอาศัยอยู่ก็เช่นเดียวกัน ประเทศนี้ก่อตั้งขึ้นด้วยจิตวิญญาณของผู้แสวงบุญ และหลังจากที่รัฐบาลของทรัมป์ได้เข้ามาบริหารงานเป็นสมัยที่สอง ประเทศนี้ก็กลับมาเข้มแข็งด้วยพระวาจาของพระเจ้าอีกครั้ง แต่ประเทศที่มีคนหลายเชื้อชาติอาศัยอยู่ร่วมกันอย่างหลากหลายแห่งนี้ก็ยังคงต้องการความเมตตาและความกรุณาจากพระเจ้า ความเหลื่อมล้ำระหว่างภูมิภาคต่างๆ ก็ยังคงรุนแรง แม้แต่ในบริเวณใกล้เคียงกับที่ฉันอาศัยอยู่ก็ยังพบเห็นภาพที่แตกต่างกันออกไป นั่นคือความเป็นจริงของสหรัฐอเมริกา

ญี่ปุ่นก็เป็นประเทศหนึ่งที่อยู่ในรายการการอธิษฐานของฉันเสมอมา ประเทศนี้มีการนับถือลัทธิบูชาผีสางมากมาย และอัตราส่วนของคริสตชนนั้นน้อยกว่า 1% แต่โชคดีที่ครอบครัวที่นับถือศาสนาคริสต์มาถึงสี่ชั่วอายุคนได้ให้กำเนิดนายกรัฐมนตรี และตอนนี้ท่านอาจกำลังจะเสร็จสิ้นการประชุมสุดยอดกับประธานาธิบดีทรัมป์ ฉันเชื่อว่าประเทศนี้ยังคงมีความหวังอยู่

ฉันหวังว่าสำหรับพวกเขาแล้ว พระเจ้าจะไม่ใช่เพียงเทพเจ้าองค์หนึ่งในบรรดาเทพเจ้ามากมาย แต่เป็นพระเยซูคริสต์พระบุตรผู้ทรงเป็นที่รักของพระเจ้า และเป็นพระผู้ช่วยให้รอดผ่านทางพระกิจการบนไม้กางเขนเท่านั้นที่จะปลอบโยนและเยียวยาจิตวิญญาณที่ทุกข์ทรมานเหล่านั้น

อย่างที่เราได้พูดคุยกันในวันนี้ พระเยซูทรงตรัสว่าจงรักศัตรูของท่านและจงอธิษฐานและอวยพรผู้ที่ข่มเหงและสาปแช่งท่าน ฉันไตร่ตรองและสำรวจตนเองว่าฉันจะเป็นภาชนะเช่นนั้นได้หรือไม่ บางครั้งฉันก็รู้สึกหงุดหงิดกับคอมเมนต์ที่ไม่ดีในอินเทอร์เน็ต และแทนที่จะจัดการกับมันอย่างชาญฉลาด ฉันก็มักจะโกรธง่ายๆ ฉันขอสารภาพบาปด้วยความละอายใจ

ตั้งแต่ต้นปีเป็นต้นมา ฉันได้พัฒนาความเคยชินที่ดีในการไตร่ตรองและแบ่งปันพระวจนะของพระเจ้าอย่างสม่ำเสมอ ดังนั้นตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ฉันจะไม่เอาชั่วตอบชั่ว แต่ฉันจะอธิษฐานขอให้พระเจ้าอวยพรพวกเขาและเติมเต็มความต้องการของพวกเขา เหมือนกับที่พระเจ้าทรงปฏิบัติต่อเรา เพราะการโกรธแค้นนั้นไม่มีประโยชน์ต่อสุขภาพจิตของเราเลย